การคำนวณน้ำหนักที่รถโฟล์คลิฟท์สามารถยกได้

ข้อจำกัดหนึ่งของรถโฟล์คลิฟท์ คือ น้ำหนักที่ยกได้ (load capacity) ที่จะมีค่าเปลี่ยนแปลงไป เมื่อเงื่อนไขตามที่ระบุใน specification เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อ load capacity หลัก ๆ นั่นคือ จุดศูนย์ถ่วง (load center) นั่นเอง
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การคำนวณน้ำหนักที่รถโฟล์คลิฟท์สามารถยกได้


ข้อปฏิบัติโดยทั่วไปและคำแนะนำในการปฏิบัติงาน
1. ควรคาดคะเนน้ำหนักสูงสุดที่บรรทุกได้อย่างปลอดภัยเสมอ เมื่อต้องการยกสิ่งของที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ
2. ถ้าจุดศูนย์ถ่วงของสิ่งของ เกินกว่าจุดศูนย์ถ่วงของรถโฟล์คลิฟท์ ให้ลดน้ำหนักที่บรรทุก โดยคำนวณน้ำหนักสูงสุดที่ยกได้ใหม่
3. ควรปรึกษาผู้ผลิตสำหรับขั้นตอนและกระบวนการต่างๆ ในกรณีที่ต้องมีการบรรทุกสิ่งของที่ใหญ่กว่าปกติ หรือต้องมีการบรรทุกที่ผิดแปลกไปจากเดิม
ในกรณีที่ไม่สามารถติดต่อขอทราบข้อมูลจากผู้ผลิตได้ ผู้ปฏิบัติการสามารถคำนวณน้ำหนักสูงสุดที่ยกได้ที่หน้างาน (field calculation) ซึ่งสามารถระบุน้ำหนักที่ปลอดภัยได้อย่างคร่าวๆ
การคำนวณที่หน้างาน ควรใช้เป็นแนวทางเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการปฏิบัติงานกับรถโฟล์คลิฟท์ ควรศึกษาและอ้างอิงจากคู่มือหรือเอกสารประจำตัวรถ
ตัวอย่างการคำนวณที่หน้างาน ในกรณีที่ต้องการยกสิ่งของขนาดใหญ่ และจุดศูนย์ถ่วงมีการเปลี่ยนแปลง
       ให้รถโฟล์คลิฟท์ตัวอย่างมี load capacity ที่ 5,000 ปอนด์ ที่ load center ตาม specification ที่ 24 นิ้วถ้าสมมติว่า ให้รถโฟล์คลิฟท์คันนี้ ต้องยกสิ่งของที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งทำให้ load center เพิ่มขึ้นเป็น 28 นิ้ว จะทำให้ load capacity ของรถโฟล์คลิฟท์คันนี้ มีค่าประมาณเท่ากับ
24 นิ้ว/28 นิ้ว x 5,000 ปอนด์ = 4,285 ปอนด์
ดังนั้น น้ำหนักสูงสุดที่บรรทุกได้ ถ้าระยะ load center เพิ่มขึ้นเป็น 28 นิ้ว ไม่ควรเกิน 4,285 ปอนด์

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เทคนิคการใช้งานรถโฟล์คลิฟท์

คู่มือการใช้รถยก FORKLIFT อย่างถูกวิธี [4]