เทคนิคการใช้งานรถโฟล์คลิฟท์

           การขับรถโฟล์คลิฟท์ ไฟฟ้า หรือ รถโฟล์คลิฟท์ ที่เป็นเครื่องยนต์อย่างถูกวิธีนั้น ผู้ขับรถจำเป็นต้องได้รับการฝึกอบรมหลายด้านในการใช้งาน เพื่อความปลอดภัยในการทำงาน โดยมีเทคนิคต่างๆ ที่ควรเรียนรู้ ดังนี้

- เทคนิคการขับเคลื่อน (Driving)
- เทคนิคการยกสิ่งของ (Lifting)
- เทคนิคการวางแพลเลทบนชั้นวาง (Stacking)
- เทคนิคในการเข้าไปเบิกถอนสินค้าออกจากชั้นวาง (Picking)

1. เทคนิคการขับเคลื่อน (Driving) 

          ในการใช้งานรถโฟล์คลิฟท์  (Forklift Truck) เทคนิคการขับเคลื่อน ที่สำคัญ คือ การฝึกทักษะการควบคุมรถโฟล์คลิฟท์ ให้สามารถบังคับให้เดินหน้า ถอยหลัง เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ด้วยอัตราความเร็วที่ต่างกัน บนสภาพทางวิ่งที่ต่างกัน เช่น  ฝึกการควบคุมรถโฟล์คลิฟท์ บนสภาพทางวิ่งโล่งไม่มีสิ่งกีดขวาง การวิ่งระหว่างชั้นวางสินค้า การวิ่งในที่แคบ การวิ่งในที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอ การวิ่งในที่แออัดมีสิ่งของวางระเกะระกะ และการวิ่งในที่มีรถโฟล์คลิฟท์ คันอื่นขับเคลื่อนอยู่พร้อมกัน เป็นต้น เป็นการฝึกสมาธิของผู้ขับขี่ และฝึกการควบคุมรถให้เคยชินกับสภาพการทำงาน

2. เทคนิคการยกสิ่งของ (Lifting) 

           การฝึกการยกสิ่งของด้วยรถโฟล์คลิฟท์ นั้น จะเริ่มฝึกด้วยการใช้งาตักสิ่งของขนาดต่างๆ การเคลื่อนงาเข้า ออก การฝึกควรต้องฝึกการเคลื่อนรถโฟล์คลิฟท์ อย่างช้าๆ แบบคืบคลาน พร้อมกับใช้ตักสิ่งของ การสอดเข้าแพลเลท การจัดความกว้างของงาให้สอดรับกับสิ่งของเพื่อให้เกิดความสมดุล การระมัดระวังในการขยับงาเข้า ออก เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งของที่ยก หากเป็นรถโฟล์คลิฟท์ ที่สามารถโยกเสาได้ ต้องฝึกโยกเอนเสาไปข้างหน้าในขณะตักสิ่งของ และโยกเอนเสาไปด้านหลังเมื่อตักของแล้ว ต้องยกย้ายสิ่งของจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง รวมทั้งฝึกการเอนเสาเวลาปล่อยวางสิ่งของ เพราะหากเอนเสามากเกินไป อาจทำให้สินค้าเทหลุดออกจากงาอย่างรวดเร็ว ทำให้ตัวสินค้าเกิดความเสียหายได้

3. เทคนิคการวางพาเลทบนชั้นวาง (Stacking) 

            การวางแพลเลทบนชั้นวาง เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผู้ขับขี่รถโฟล์คลิฟท์ จำเป็นที่ต้องฝึกฝนให้ชำนาญ เพราะจะต้องเคลื่อนรถโฟล์คลิฟท์ อย่างช้าๆ แบบคืบคลาน พร้อมกับใช้เบรกอย่างนิ่มนวลเข้าหาชั้นวาง อีกทั้งยังต้องคำนึงถึงตำแหน่งการวางแพลเลทให้พอดี และเมื่อได้ตำแหน่งที่ต้องการแล้ว การยกงาขึ้นต้องให้งาเลยจากชั้นวางในระดับที่พอดี จึงจะสอดงาลึกเข้าชั้นวางได้ ทั้งนี้ระวังอย่าให้งาอยู่สูงเกินไปจนสินค้าชนกับคานด้านบนของชั้นวางเมื่อวางแพลเลทลงบนชั้นวางแล้ว การถอนงาออกจากแพลเลทต้องเป็นไปอย่างระมัดระวังเช่นกัน เพราะงาอาจครูดกับคานหรือตัวแพลเลท จนเกิดความเสียหายได้ เมื่อถอยตัวรถโฟล์คลิฟท์ ออกจากชั้นวาง ต้องระวังไม่ให้ชนกับชั้นวางที่อยู่ด้านหลังและต้องกลับตัวรถโฟล์คลิฟท์ ให้พอดีกับช่วงกว้างของทางวิ่ง

4. เทคนิคการเข้าไปเบิกถอนสินค้าออกจากชั้นวาง (Picking) 

            การเบิกถอนสินค้าออกจากชั้นวาง เป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่รถโฟล์คลิฟท์ ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เพราะหากผู้ขับขี่ไม่ชำนาญหรือขาดความระมัดระวัง แล้วขับรถโฟล์คลิฟท์ ไปชนเสาชั้นวาง อาจทำให้ชั้นวางหรือสินค้าล้มลงมา จนเกิดความเสียหายแก่สินค้า หรือ ชีวิตได้