โฟล์คลิฟท์ คืออะไร

ภาพตัวอย่าง Final Assembly             การออกแบบโฟล์คลิฟท์โดยใช้โปรแกรม SolidWorks มีทั้งหมด 22 part โดยเริ่มจากตัว Air Intake , Steering , Rear Light ,..., Final Assembly สามารถศึกษาและรับชมได้จากลิ้งที่อยู่ด้านล่างเลยครับ

โมเดลรถยก โฟล์คลิฟท์         สวัสดีครับ เราจะมาสาธิตการทำงานของระบบไฮดรอลิคคันยกต่างๆ นะครับ ระบบไฮดรอลิคคันยกต่างๆ จะประกอบไปด้วย 1. ส่วนคันบังคับงาขึ้น-ลง 2. ส่วนคันบังคับงาคว่ำ-หงาย 3. ส่วนคันบังคับขยายงา

FORKLIFT          ร ถฟอร์คลิฟท์ หรือรถโฟล์คลิฟท์ หลายคนรู้จัก หรือเคยได้ยิน แต่อีกหลายๆ คน อาจจะยังไม่รู้จักเจ้ารถฟอร์คลิฟท์ ว่ามันคืออะไร เป็นอย่างไร           รถฟอร์คลิฟท์ หรือรถโฟล์คลิฟท์ที่เราเรียกและใช้งานกันอยู่นั้น อันที่จริงแล้วไม่ใช่รถ แต่เป็นเครื่องจักรชนิดหนึ่ง เพียงแต่มีล้อ จึงเรียกเครื่องจักรชนิดนี้ว่ารถ           ในปัจจุบันรถฟอร์คลิฟท์ หรือรถโฟล์คลิฟท์เป็นรถยกที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย เพราะเป็นเครื่องทุ่นแรงและเพิ่มมูลค่าให้กับองค์กรได้อย่างมหาศาล ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นโรงงาน หรือห้างร้าน จึงนิยมเลือกใช้งาน รถฟอร์คลิฟท์ หรือรถโฟล์คลิฟท์ แทนการใช้แรงงานคน เนื่องจากมีความคุ้มค่า และมีข้อจำกัดที่น้อยกว่า  

A FORKLIFT TRUCK BEING USED DURING WORLD WAR II               ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1  ได้ผลักดันให้มีการพัฒนาการยกแท่นรองฐานปืนโดยใช้ระบบไฟฟ้า แต่ด้วยความจำเป็นและสะดวกต่อการใช้งาน ได้มีการพัฒนาเพิ่มเติมในส่วนของการยกย้ายลูกระเบิดด้วยความนิ่มนวลปลอดภัยยิ่งขึ้นซึ่งมีการพัฒนาใช้ทั้งระบบแมคคานิคและรถยกไฟฟ้าขึ้นมาด้วยในรุ่น แรกๆ

          รถโฟล์คลิฟท์โดยทั่วไปจะมีอยู่     2   ระบบตามการขับเคลื่อน คือการขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ โดต้องใช้น้ำมันหรือแก๊สเป็นเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อน และแบบขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า โดยจะต้องใช้แบตเตอร์รี่เป็นพลังงานในการขับเคลื่อน

        รถโฟล์คลิฟท์ เป็นรถสำหรับยกของ หรือเคลื่อนย้ายสินค้าต่างๆ ในองค์กร สามารถยกได้สูง และยกได้ในจำนวนมากๆ ในแต่ละครั้ง ที่รถโฟล์คลิฟท์สามารถยกของหนักๆ ชิ้นใหญ่ๆ ได้ และสามารถยกของไปในที่สูงได้ เนื่องจากมีส่วนประกอบหลักที่เป็นส่วนสำคัญในการทำหน้าที่

เสถียรภาพ  (stability)           ในขณะปฏิบัติงานกับ รถโฟล์คลิฟท์   เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะจะส่งผลต่อความปลอดภัยโดยตรง   ซึ่งสิ่งที่จะส่งผลต่อเสถียรภาพ มักจะเป็นเรื่องของความสามารถในการ ยก   (load capacity)   ที่เปลี่ยนแปลงไป   เนื่องจากปัจจัยหลาย ๆ ประการในกรณีที่มีปัจจัยใดๆ ลด   load capacity   ของรถโฟล์คลิฟท์ แต่น้ำหนักบรรทุกไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนให้ตรงตามเงื่อนไขดังกล่าว สิ่งที่ตามมาคือเสถียรภาพที่ลดลง ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุและความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้          ต่อไปนี้เป็น   8   ปัจจัยที่ส่งผลลด   load capacity   และจะส่งผลต่อเสถียรภาพของรถโฟล์คลิฟท์ ที่ผู้ปฏิบัติงานควรตระหนักและควรป้องกันไม่ให้เกิดปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว

ข้อจำกัดหนึ่งของรถโฟล์คลิฟท์ คือ น้ำหนักที่ยกได้ ( load capacity) ที่จะมีค่าเปลี่ยนแปลงไป เมื่อเงื่อนไขตามที่ระบุใน specification เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อ load capacity หลัก ๆ นั่นคือ จุดศูนย์ถ่วง ( load center) นั่นเอง

ผู้ที่ได้รับการอนุญาต และอบรมอย่างถูกต้องเท่านั้น ควรเป็นผู้ขับขี่รถยก ท่านเป็นผู้มีความสามารถพอที่จะขับรถยกได้หรือไม่ ท่านเรียนรู้เกี่ยวกับรถยกที่ท่านใช้งานอยู่บ้างหรือไม่ ท่านสวมเสื้อผ้ารัดกุมและหมวกนิรภัยระหว่างปฏิบัติงานหรือไม่   

ขณะขับรถ อย่ายื่นมือหรือเท้าออกไปเกินส่วนที่เป็นเสาของรถยก ห้ามโดยเด็ดขาด มีให้ยื่นมือหรือเท้าออกไปเกินส่วนที่เป็นเสาของรถยก มิฉะนั้นอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุแก่ผู้ขับขี่ได้

อย่าขับรถยกในขณะที่มีอาการมึนงง หรือใช้รถยก เป็นเครื่องเล่นตลก เมื่อท่านจับพวงมาลัยพึงระลึกไว้เสมอว่า ความปลอดภัย เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นอย่ากระทำการใด ๆ อันก่อให้เกิดเหตุยุ่งยากแก่ท่านและผู้อื่น

อย่ายกงาค้างเอาไว้ เมื่อวิ่งรถเปล่า ควรลดลงไว้ในระดับต่ำเสมอ เพื่อป้องกันมิให้งาไปเฉี่ยวหรือทิ่มแทงสิ่งของหรือตัวบุคคล

            การขับรถโฟล์คลิฟท์ ไฟฟ้า หรือ รถโฟล์คลิฟท์ ที่เป็นเครื่องยนต์อย่างถูกวิธีนั้น ผู้ขับรถจำเป็นต้องได้รับการฝึกอบรมหลายด้านในการใช้งาน เพื่อความปลอดภัยในการทำงาน โดยมีเทคนิคต่างๆ ที่ควรเรียนรู้ ดังนี้ -  เทคนิคการขับเคลื่อน ( Driving) -  เทคนิคการยกสิ่งของ ( Lifting) -  เทคนิคการวางแพลเลทบนชั้นวาง ( Stacking) -  เทคนิคในการเข้าไปเบิกถอนสินค้าออกจากชั้นวาง ( Picking)

        กรณีตรวจสภาพก่อนใช้งานประจำวัน และพบความผิดปกติหรือความบกพร่องของ ร ถโฟล์คลิฟท์ ให้แจ้งหัวหน้างานทันทีการตัดสินใจในการหยุดหรือให้ใช้งานต่อด้วยเงื่อนไขใดให้อยู่ในดุลยพินิจของหัวหน้างาน การตรวจสอบตรวจสภาพรถโฟล์คลิฟท์ก่อนใช้งานประจำวัน แบ่งออกเป็น   3  ลำดับ คือ        1.    วิธีตรวจสอบตรวจสภาพรถโฟล์คลิฟท์ก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์ ( Pre-Check)         2.     วิธีตรวจสอบตรวจสภาพรถโฟล์คลิฟท์หลังสตาร์ทเครื่องยนต์ ( Functional Check)        3.     วิธีตรวจสอบตรวจสภาพรถโฟล์คลิฟท์หลังจากจอด ( Parking Check)

        จากบทความที่ได้นำเสนอมาก่อนหน้านี้นั้นได้อธิบายถึงรถยก โฟล์คลิฟท์ กันพอเข้าใจแล้วซึ่งทั้งหมดก็ได้แสดงถึงข้อมูลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับสิ่งที่ควรรู้หรือเรียนรู้ถึงรถยก โฟล์คลิฟท์ความสำคัญส่วนประกอบหลักการทำงานพอที่จะนำไปปรับใช้หรือประกอบธุรกิจและการทำงานได้ในระดับนึง มาดูประโยชน์ของรถยก โฟล์คลิฟท์ที่สามารถทำได้ดีเมื่อใช้งานอย่างถูกวิธี มีดังนี้ 1.   ประหยัดเวลา              การใช้เครื่องจักร หรือเครื่องมือต่างๆ เข้ามาช่วยในการทำงาน นอกจากจะได้งานที่ดีกว่าแล้ว ยังช่วยให้ประหยัดเวลาไปได้มากกว่าการใช้คนหลายสิบเท่า ทำให้เพิ่มลูลค่าเพิ่มให้กับองค์กรได้อย่างแท้จริง